เมนู

7. ปิยชาติกสูตร



[535] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี. ก็โดยสมัยนั้นแล บุตรน้อยคน
เดียวของคฤหบดีผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รักที่ชอบใจได้กระทำกาละลง. เพราะการทำ
กาละของบุตรนั้น คนเดียวนั้น การงานย่อมไม่แจ่มแจ้ง อาหารย่อมไม่ปรากฏ.
คฤหบดีนั้นได้ไปยังป่าช้าแล้ว ๆ เล่า ๆ คร่ำครวญถึงบุตรว่า บุตรน้อยคนเดียว
อยู่ไหน บุตรน้อยคนเดียวอยู่ไหน. ครั้งนั้นแล คฤหบดีนั้น ได้เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วจึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[536] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะคฤหบดีผู้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้าง
หนึ่ง แล้วว่า ดูก่อนคฤหบดี อินทรีย์ไม่เป็นของท่านผู้ตั้งอยู่ในจิตของตน
ท่านมีอินทรีย์เป็นอย่างอื่นไป. คฤหบดีนั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ทำไมข้าพระองค์จะไม่มีอินทรีย์เป็นอย่างอื่นเล่า เพราะว่าบุตรน้อยคนเดียวของ
ข้าพระองค์ ซึ่งเป็นที่รักเป็นที่ชอบใจได้ทำกาละเสียแล้ว เพราะการทำกาละ
ของบุตรน้อยคนเดียวนั้นการงานย่อมไม่แจ้งแจ้ง อาหารย่อมไม่ปรากฏ
ข้าพระองค์ไปยังป่าช้าแล้ว ๆ เล่า ๆ คร่ำครวญถึงบุตรนั้นว่า บุตรน้อยคนเดียว
อยู่ไหน.
พ. ดูก่อนคฤหบดี ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูก่อนคฤหบดี ข้อนี้เป็น
อย่างนั้น เพราะว่าโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาสย่อมเกิดแต่ของ
ที่รัก เป็นมาแต่ของที่รัก.